สังเกตกันไหมว่า… จริง ๆ แล้วพลังงานของ ปตท. ผูกพันกับชีวิตและอยู่ใกล้ตัวเรามากจนอาจจะคาดไม่ถึงมายาวนานกว่า 45 ปีแล้ว
หากพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่าง คนไทย กับ ปตท. หลายคนอาจจะเห็นภาพใหญ่ ๆ คือการเป็นบริษัทพลังงานแห่งชาติ แต่จริง ๆ แล้วพลังงานของ กลุ่ม ปตท. ได้ขับเคลื่อนชีวิตคนไทยในเกือบจะทุกกิจกรรมจนแยกจากกันไปไม่ได้เลย อีกทั้งยังผ่านเรื่องราวและเหตุการณ์สำคัญ ๆ ร่วมกับคนไทยมาหลายยุคหลายสมัย จนเกิดเป็นความทรงจำมากมายที่เราจะนำมาเล่าผ่านบทความ “จุดพลังซีรีส์ กับพลังดี ๆ ที่ ปตท. มีให้กับคนไทย” กับตลอด 45 ปี ที่ ปตท. จุดพลังชีวิต ขับเคลื่อนอนาคตของคนไทยไปพร้อม ๆ กับการดำเนินธุรกิจด้านพลังงาน และหากถามว่าความผูกพันของคนไทยกับ ปตท. เริ่มต้นที่ตรงไหน เราจะเล่าให้ฟังในตอนที่ 1 นี้ ไปติดตามกัน
ออยล์ช็อก คนไทยก็ช็อก !
จุดเริ่มต้นความผูกพันของคนไทยกับ ปตท. เรียกได้ว่าร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน เพราะกว่าที่คนไทยจะมีพลังงานรูปแบบต่าง ๆ ที่เข้าถึงได้อย่างในทุกวันนี้ ต้องผ่านความหนักหนาสาหัสในช่วงที่เกิด “วิกฤตพลังงาน” เมื่อกว่า 4 ทศวรรษก่อน และได้จารึกคำว่า “ออยล์ช็อก” (Oil Shock) เอาไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ เพราะทำให้เศรษฐกิจและคนไทยต้องช็อกตามไปด้วย
ซึ่งตอนนั้นน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศเข้าสู่ภาวะขาดแคลน ราคาน้ำมันแพงถึงขีดสุด พอน้ำมันเริ่ม (เข้าถึง) ยาก ข้าวและหมากก็แพงหูฉี่ ประชาชนเดือดร้อนอย่างหนัก เป็นวิกฤตที่รัฐบาลต้องหาทางแก้ปัญหานี้โดยด่วน การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย หรือ ปตท. ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นเพื่อบริหารจัดการพลังงานในประเทศ แก้ปัญหาขาดแคลนน้ำมันอย่างเร่งด่วน หาทางออกและรับมือวิกฤตให้ได้ในระยะยาวจนกลับมามั่นคงอีกครั้งหนึ่ง คนไทยก็จะได้กลับสู่สภาวะปกติ ซึ่งภารกิจน้ำมันในตอนนั้นของ ปตท. คือ
- จัดหา-จัดซื้อน้ำมันดิบที่ราคาถูกที่สุดในแถบอาเซียนและจีน เพื่อมาใช้เป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าแทนน้ำมันเตา
- โอนกิจการโรงกลั่นน้ำมันบางจากจากบริษัทต่างชาติคืนมาบริหารเอง เพื่อควบคุมการกลั่นน้ำมันภายในประเทศ
- เช่าเรือเก็บน้ำมันขนาดใหญ่จากกองทัพเรือมาบรรทุกน้ำมันเตา เพื่อเป็นคลังสำรองให้เพียงพอสำหรับการผลิตไฟฟ้า
- กระจายน้ำมันไปจำหน่ายยังสถานีบริการ “ปั๊มสามทหาร”
- ออกมาตรการประหยัดน้ำมัน ควบคุมการใช้น้ำมันและไฟฟ้า
ปตท. จับมือคนไทย ก้าวข้ามความขาดแคลน มีน้ำมันใช้อย่างเพียงพอ
ด้วยแผนฟื้นชีพพลังงานไทยที่เร่งด่วนชวนไฟลุกในครั้งนั้น ปตท. กลายเป็นกลไกสำคัญของประเทศไทย ก้าวข้ามความขาดแคลนน้ำมันเตา-น้ำมันดีเซลหมุนเร็วไปได้ มีระบบสำรองน้ำมันให้คนไทยได้ใช้อย่างเพียงพอ ประชาชนไม่ต้องมาแบกรับราคาน้ำมันที่ผันผวน และได้พัฒนารูปแบบธุรกิจน้ำมันให้ก้าวกระโดดขึ้นไป วิจัยและพัฒนาคุณภาพน้ำมันประเภทต่าง ๆ ที่สำคัญคือ ยกระดับสถานีบริการน้ำมัน “ปั๊มสามทหาร” ในขณะนั้นให้ทันสมัย เป็นปั๊มน้ำมัน ปตท. ที่มีศักยภาพทัดเทียมกับแบรนด์ใหญ่จากต่างชาติที่เข้ามาปักธงอยู่ก่อนแล้ว จนพัฒนาสู่ “PTT Station” ที่เราคุ้นเคยในวันนี้ และพากันเดินมาถึงจุดที่ไม่ต้องพึ่งพาน้ำมันจากต่างชาติ เมื่อเกิดวิกฤตน้ำมันหรือวิกฤตเศรษฐกิจขึ้นอีกหลายต่อหลายครั้งก็สามารถผ่านมาโดยไม่ได้รับผลกระทบ และเป็นหลักประกันให้คนไทยมั่นใจว่าน้ำมันไทยจะไม่ขาดแคลนอีกต่อไปแล้ว
บุกเบิกก๊าซธรรมชาติ ความผูกพันครั้งยิ่งใหญ่ที่เต็มไปด้วยความหวัง
ฟ้าหลังฝนย่อมสวยงามเสมอ ! ไม่เพียงแต่การจัดหาน้ำมันให้เพียงพอต่อความต้องการเท่านั้น เมื่อคนไทยฟื้นจากภาวะช็อกเรื่องน้ำมันขาดแคลนไปได้ก็พบกับความหวังใหม่ของพลังงานขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เมื่อเริ่มมีการค้นพบแหล่งก๊าซธรรมชาติในประเทศที่จะนำมาใช้ผลิตไฟฟ้าได้เองแทนการใช้น้ำมันเตา แต่ก็เหมือนตลกร้าย เพราะประเทศไทยยังต้องพึ่งพาบริษัทสำรวจแหล่งก๊าซจากต่างชาติที่มีความรู้และเทคโนโลยีที่ทันสมัย แล้วรัฐบาลไทยค่อยไปรับซื้อมาอีกที ราคารับซื้อก็ไม่ได้ตกลงกันง่าย ๆ เกิดเป็นปัญหามากมาย ดังนั้นเมื่อมีความพร้อมในระดับหนึ่งแล้ว รัฐบาลไทย และ ปตท. จึงไปซื้อสิทธิ์กลับคืนมาเพื่อดำเนินการต่อเองภายใต้บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด หรือ ปตท.สผ. เริ่มคุ้น ๆ กันบ้างหรือยัง ?
ทรัพยากรก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย มีองค์ประกอบที่สามารถสร้างคุณค่าได้มากมาย ไม่เพียงแต่การใช้เป็นเชื้อเพลิง โรงแยกก๊าซธรรมชาติคือหัวใจสำคัญในการนำคุณค่าเหล่านั้น มาใช้สร้างมูลค่าเพิ่ม แต่การก่อตั้งโรงแยกก๊าซธรรมชาติซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ต้องไปกู้เงินจำนวนมหาศาลจากต่างประเทศมาลงทุนก่อสร้าง ตั้งแต่ท่อก๊าซกลางทะเล ส่งขึ้นบกแล้วส่งต่อไปยังโรงไฟฟ้า เรียกว่าทุลักทุเลไม่น้อยเลย แต่ในที่สุดก็ได้เปิดโรงแยกก๊าซธรรมชาติหน่วยที่ 1 ผลิตก๊าซธรรมชาติได้เอง ลดต้นทุนในการนำเข้าน้ำมันเตาที่เป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิตไฟฟ้าและอุตสาหกรรมต่าง ๆ ทั้งยังเป็นพลังงานสะอาดช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อมได้ สร้างประโยชน์มากมายให้กับคนไทยมาจนวันนี้ มีอะไรบ้าง ไปดูกัน
ปิโตรเคมี มูลค่าเพิ่มจากทรัพยากรก๊าซธรรมชาติ
สร้างงาน สร้างอาชีพให้คนไทย
หลายคนอาจจะมอง “ปิโตรเคมี” เป็นเรื่องไกลตัว แต่จริง ๆ แล้วชีวิตประจำวันของเราผูกติดกับปิโตรเคมีแบบแนบชิดแยกจากกันไม่ได้ตั้งแต่ตื่นนอนจนเข้านอนเลยล่ะ… เพราะวัสดุกลุ่มพลาสติกทั้งหมดทั้งมวลมีต้นทางมาจาก “อุตสาหกรรมปิโตรเคมี” ทั้งสิ้น และสิ่งนี้เองที่ได้สร้างงาน สร้างอาชีพ ให้กับพี่น้องชาวไทยมาจนทุกวันนี้
ความผูกพันของคนไทยกับอุตสาหกรรมปิโตรเคมีเริ่มขึ้นตอนที่ ปตท. ได้ร่วมจัดตั้งบริษัท ปิโตรเคมีแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NPC รับก๊าซอีเทนและโปรเพนจากโรงแยกก๊าซธรรมชาติมาผลิตเป็น “เอทิลีน” และ “โพรพิลีน” เป็นวัตถุดิบตั้งต้นในการผลิตเม็ดพลาสติก ส่งต่อไปยังโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ เพื่อผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ฯลฯ ส่งผลให้ประเทศไทยมีโรงงานอุตสาหกรรมเกิดขึ้นและเติบโตอย่างรวดเร็ว เกิดการจ้างงานจำนวนมาก ประชาชนมีงาน มีรายได้ และยังส่งออกไปตลาดโลกด้วย เศรษฐกิจไทยเติบโตแบบก้าวกระโดดมาจนถึงทุกวันนี้ ถือเป็นการใช้ประโยชน์จากก๊าซธรรมชาติได้อย่างคุ้มค่า
จากวันแรกที่เริ่มต้นเฟ้นหาพลังงาน กว่าที่ ปตท. จะฝ่าฟันและบุกเบิกพลังงานด้านต่าง ๆ ให้คนไทยได้ใช้กันจนถึงทุกวันนี้ เต็มไปด้วยอุปสรรคต่าง ๆ มากมาย แต่ในระหว่างทางก็นำมาซึ่ง “ความผูกพัน” และความทรงจำดี ๆ มากมายเช่นเดียวกัน ที่คอยจุดพลังให้กันและกันมาจนวันนี้ และถึงแม้เรื่องราวของ “พลังงาน” จะจบลงที่ EP. นี้ เพื่อน ๆ ยังสามารถติดตาม “จุดพลังซีรีส์ กับพลังดี ๆ ที่ ปตท. มีให้กับคนไทย” ตอนต่อไป ที่จะสานต่อความรักความห่วงใยในการช่วยเหลือสังคมไทย ทั้งยังคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมไปพร้อม ๆ กันด้วย
สามารถติดตามอ่าน “จุดพลังซีรีส์ กับพลังดี ๆ ที่ ปตท. มีให้กับคนไทย” กับตลอด 45 ปี ที่ ปตท. จุดพลังชีวิต ขับเคลื่อนอนาคตของคนไทยไปพร้อม ๆ กับการดำเนินธุรกิจด้านพลังงาน ทั้งหมดได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้เลยค่ะ